วิธีรักษา ปลาเทวดา ขี้ขาว ปลาปอมปาดัวร์ ขี้ขาว

คือ ล่าสุดผมได้สูญเสีย ปลาปอมปาดัวที่น่ารักไปสองตัว เพราะหาวิธีแก้ไข อาการ ขี้ขาว ซึมเศร้า ไม่กินอะไร
มากว่า สองอาทิตย์แล้ว ซึ่งในตู้นี้ จะมีปลาปอมปาดัว สองตัว และมีปลาเทวดาอีกตัวหนึ่ง
ก่อนจะเกิดเรื่อง ผมพบว่าที่หน้าตู้เหมือนมีตัวอะไรเป็นขนๆ ขาวเล็ก เล็กกว่าเส้นผม ยาวประมาณ 2-3 mm เคลื่อนไหวได้ด้วย เกาะในตู้ปลาอยู่ด้านหน้า ก็สงสัย แต่ก็คาดว่าน่าจะเป็นพยาธิแน่นอน จึงรีบนำตู้ล้างครั้งใหญ่ ซึ่งพยาธิน่าจะมาจากอาหารสดที่ผมชอบให้อาทิตย์ละครั้งก็คือ หนอนแดง ที่ยังไม่ตายนะครับ (แบบที่เห็นตัวยาวๆ เล็กๆชอบรวมตัวเป็นก้อนแล้วดิ้นไปดิ้นมานะครับ อย่าเอามาให้เลยครับมันสกปรกผมเลิกให้แล้ว หนอนแดงนี้ไม่ใช่แบบแช่แข็งนะครับ)
หลังจากล้างตู้ก็พบว่าไม่ทันเสียแล้ว ปลาปอมซึมแล้ว สังเกตุได้เลยว่า ขี้ขาว แต่ปลาเทวดายังไม่เป็นอะไร ก็จับแยกปลาปอมปาดัวร์ออกมาแล้วทำตามที่มีคนแนะนำใส่เกลือบ้าง อะไรบ้างสรุปว่าสองวันเท่านั้นตาย
ก็เหลือแต่ปลาเทวดา แต่ก็ไม่ทันเช่นกัน มีอาการเดียวกันเลยผมก็สงสารมากๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรไปอ่านในเว็บหลายคนก็พบปัญหานี้ก็ไม่รู้จะแก้ไขอย่างปล่อยให้ตายไปเหมือนผม ใส่เกลือ อะไรก็ไม่หาย

** แต่สวรรค์ทรงโปรด ผมทดลองไปร้านขายปลาขอซื้อยารักษาลำไส้ มาผสมน้ำสีออกฟ้าๆ โอแทบไม่เชื่อปลาเทวดาผมเริ่มกินอะไรได้หลังจากให้ยาอยู่แค่เพียง 3 วัน มาตอนนี้ปลาผมหายแล้วครับเป็นปกติว่ายน้ำอย่างสวยงาม***

จึงมาแบ่งปันให้เพื่อนทราบว่ารักษาได้นะครับ

** ไม่ได้โฆษณานะครับ แต่ตัวยาที่ผม ซื้อมา รักษานั้น คือ
Bluenacine ซองขนาด 5 g
Combination anti bacterial and anti Fungus
จำหน่ายโดย Medifish Product Bangkok Thailand
**

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา [สิ้นสุด]: วันที่ 20

วันที่ 20
ในที่สุดปลาที่คงเหลือก็ตายทั้งหมด สรุปว่า
ไม่สามารถหาอาหารมาเลี้ยงลูกปลาที่อายุ 20 วันได้ ตายทั้งหมด
หลังจากนั้นพ่อแม่ปลาก็ไม่มีการตกไข่อีกเหมือนว่าจะเกินอายุแล้ว

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 19

วันที่ 19 ห้าเสือยังคงอยู่

สุขภาพของปลาทั้ง 5 ตัวยังสมบูรณ์ดี ตัวใหญ่กว่าลูกปลาคอกสองอยู่เท่าตัว และกินอาหารได้ดีขึ้น เวลาให้ลูกไรอบแห้งเขาก็ขึ้นมากินปกติ

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 18

วันที่ 18 ตัวโตขึ้นนะ

ผมว่า 5 ตัวที่เหลือ มีสุขภาพแข็งแรง มีตัวหนึ่งตัวโตกว่าตัวอื่นมากๆเลย

ปลาเทวดาวางไข่ คอกสอง : วันที่ 5

วันที่ 5 คอกสอง ลูกปลาเห็นขอบลำตัวสีดำชัดเจน

นับโดยประมาณมีจำนวน 150 ตัว เริ่มว่ายขึ้นผิวน้ำบ้างแล้ว

ปลาเทวดาวางไข่ คอกสอง : วันที่ 4

วันที่ 4 คอกที่สอง สองตาน้อยๆ

ลูกปลาเริ่มเห็นเป็นตัวอย่างชัดเจน มาคอกนี้ ผมจะทดสอบไม่ดูด พวก ไข่ที่ฝ่อทิ้งดี ลูกปลายังไม่ต้องกินอะไรคงต้องอีกสักสองสามวัน ถุงไข่จึงจะยุบหมด การเปลี่ยนน้ำผมก็เปลี่ยนเป็นตอนเย็น เพราะไม่ไหวช่วงนี้เหนื่อย ตื่นไม่ทัน

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 17

วันที่ 17 : ห้าปลาน้อยสู้ สู้

วันนี้ตอนเช้าได้เปลี่ยนน้ำปลาก็เห็นปลา คงเหลือเพียง ห้าตัวเพราะ ตัวที่ดูอ่อนแอที่สุดก็ตายจนได้

ตอนนี้ ลูกปลาทั้งห้าก็อาศัยอยู่กับไข่ปลาอายุประมาณ 4 ที่กำลังจะว่าย ต้องรอดูกันต่อไป

ปลาเทวดาวางไข่ คอกสอง : วันที่ 3

ไข่ปลาเทวดา กับ ลูกปลาคอกก่อน

ปลาเทวดา คอกสอง วันที่ 3
วันนี้ก็ยังทำเช่นเคยคือเปลี่ยนน้ำ เช้า-เย็น ตั้งแต่มี ปลาออกไข่ การเปลี่ยนน้ำทำจนเป็นนิสัยไปแล้ว สังเกตุลูกปลาที่เห็นมีหางยื่นออกมา ก็กระดิกหางกัน แบบขยันขันแข็ง มีจำนวนมาก ตัวออกลายจุดสีดำๆ เหมือนพ่อแม่

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 16

ลูกปลา 3 ตัว มายิ้มให้

วันที่ 16 : สู้ต่อไปลูกปลาน้อย
วันที่ 26/06/2009 05:30
สำรวจดูลูกปลายังมีจำนวนครบ 6 ตัว เห็นมีตัวเล็กสุดตัวหนึ่งเมื่อวันก่อนดู ไม่ค่อยดีแต่วันนี้ดีขึ้น ก็ขอให้สู้กันต่อไปนะ

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 15

ยังยิ้มได้ ปลาน้อยยังแข็งแรง

วันที่ 15 : หกชีวิตต้องสู้
วันที่ 26/06/2009 05:30
สำรวจดูลูกปลายังมีจำนวนครบถ้วน คือ 6 ตัว ให้อาหารปลาโดยใช้ไรแดงอบแห้ง ถ้าหากลูกปลาไม่ตายอีกแสดงว่าอาหารตัวนี้ใช้ได้ ไว้มาลุ้นกันเย็นนี้มีจะมีตายอีกหรือไม่

วันที่ 26/06/2009 17:30
กลับมาจากที่ทำงานลูกปลาทั้ง 6 ตัว ยังอยู่ครบ แสดงว่าใช้ได้ และอาจจะเป็นเพราะมีไข่ปลาคอกใหม่ ทำให้เขามีอาหารกินจากไข่ที่ฟ่อก็เป็นได้

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 14

ลูกปลาเทวดา หนึ่งในหก ของผู้รอดชีวิต

วันที่ 14 : ลูกปลา 6 ชีวิต
ลูกปลาตายไปอีกไม่ต่ำกว่า 40 ตัว คงเหลือ 6 ตัวสุดท้าย จาก 200 กว่าเมื่อตอนฟักออกมา ขณะนี้ขนาดปลาโดยประมาณ ยาว 4 มม. กว้าง 0.8 มม. ดวงตาเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.45 มม. โดยเทียบกับสายยาง
-เลิกแล้ว ไข่ต้มสุกผสมน้ำ เพิ่งได้ลูกไรอบแห้งมาเห็นมันเข้าไปกินก็สบายใจขึ้น
-เปลี่ยนน้ำตอนเช้าและเย็น โดยถ่ายน้ำ 1ใน2 ดูดน้ำออก พร้อมสิ่งสกปรก จึงให้อาหารก่อนจะเปลี่ยนน้ำ

ปลาเทวดาวางไข่ คอกสอง : วันที่ 1

ไข่ปลาบนใบไม้น้ำ

ปลาเทวดาวางไข่ คอกสอง : วันที่ 1

วันที่ 25/06/2009 17:15
เมื่อกลับจากที่ทำงาน พบเห็นพ่อแม่ปลาชุดเดิม (ที่เคยกินไข่หมด) เพิ่งวางไข่บนใบไม้น้ำที่ประดับตู้ คือสังเกตุอาการเมื่อวานแล้วก็พอรู้คือตัวพ่อจะไล่ปลาตัวอื่นให้ห่างตัวเมีย แล้วพอมาวันนี้ก็ไข่จริงๆ คราวนี้โชคดีสามารถแยกไข่ออกมาได้ทัน เพราะไข่ไว้ที่ใบไม้น้ำจึงตัดออกมาได้ง่ายอย่างไรก็เบาๆมือสักนิด เพราะไข่อาจจะหล่อน ก็หวังว่าพอฟักจะรอดมากกว่าคอกที่แล้วบ้าง

วันที่ 26/06/2009 05:30
ก็เห็นปลาเทวดาตัวเมียที่ไม่มีคู่กระโดดออกมา สงสัยถูกไล่เลยตกใจกระโดดออกมาตาย น่าสงสาร คือในตู้ที่เลี้ยงผมซื้อปลาเทวดามา 5 ตัว ครั้งแรกไม่รู้ว่ามีเพศใดบ้าง พอเลี้ยงไว้ประมาณหนึ่งเดือนก็เริ่มรู้ ก็คือ มี 2 คู่ แต่ที่เหลือคือตัวเมีย ซึ่งตัวนี้น่าสงสารถูกรุมเวลาคู่ไหนจะไข่เขาก็จะถูกไล่อยู่ตัวเดียวเคยไปดูที่ร้านปลาก็หาตัวผู้ไม่ได้ เลยต้องให้มันเหงาตัวเดียวมานาน สุดท้ายมาด่วนจากไปขอไว้อาลัยด้วยนะปลาเทวดาน้อย

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 13

วันที่ 13 : ลูกปลา 50 ชีวิต
ลูกปลาตายไปอีกไม่ต่ำกว่า 50 ตัว ขณะนี้ดูด้วยตา น่าจะคงเหลือไม่ถึง 50 ตัว จาก 200 กว่าเมื่อตอนฟักออกมา
-ใช้ ไข่ต้มสุกผสมน้ำ แล้วนำไปใส่ขวดพ่นยา เป็นวันที่แปด ตั้งใจว่าจะหยุดการให้ไข่แต่ สังเกตุเห็นลูกปลาไม่กินอะไรเลย ให้ลูกไรแดงก็ไม่กิน แล้วไรแดงก็ไม่มีตัวเล็กๆ แล้วตายหมดเหมือนกัน ลูกปลาจึงตายเป็นจำนวนมาก
-เปลี่ยนน้ำตอนเช้าและเย็น โดยถ่ายน้ำ 1ใน2 ดูดน้ำออก พร้อมสิ่งสกปรก จึงให้อาหารก่อนจะเปลี่ยนน้ำ

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 12

วันที่ 12 : ลูกปลา 100 ชีวิต
ลูกปลาตายไปอีกไม่ต่ำกว่า 10 ตัว ขณะนี้ดูด้วยตา น่าจะคงเหลือไม่ถึง 100 ตัว จาก 200 กว่าเมื่อตอนฟักออกมา
-ใช้ไข่ต้มสุกผสมน้ำ แล้วนำไปใส่ขวดพ่นยา เป็นวันที่เจ็ด ตั้งใจว่าจะหยุดการให้ไข่แต่ สังเกตุเห็นลูกปลาไม่กินอะไรเลย น่าจะเป็นเหตุให้เริ่มตาย
-เปลี่ยนน้ำตอนเช้าและเย็น โดยถ่ายน้ำ 1ใน2 ดูดน้ำออก พร้อมสิ่งสกปรก จึงให้อาหารก่อนจะเปลี่ยนน้ำ

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 11

ลูกปลาตัวน้อยกินอาหารได้

หน้าตาของผู้รอดชีวิต

วันที่ 11 : จำนวนลูกปลาลดลง
ลูกปลาตายไปอีกไม่ต่ำกว่า 40 ตัว ขณะนี้ดูด้วยตา น่าจะคงเหลือประมาณ 100 ตัว จาก 200 กว่าเมื่อตอนฟักออกมา
-เริ่มมีลูกปลาที่ท้องจะมีสีขาวมากขึ้น แสดงว่ากินอาหารได้บ้างแล้ว
-ใช้ไข่ต้มสุกผสมน้ำ แล้วนำไปใส่ขวดพ่นยา เป็นวันที่ห้า
-เปลี่ยนน้ำตอนเช้าและเย็น โดยถ่ายน้ำ 1ใน2 ดูดน้ำออก พร้อมสิ่งสกปรก จึงให้อาหารก่อนจะเปลี่ยนน้ำ

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 10

ลูกปลาที่รอดและแข็งแรง มีท้องสีขาวกว่าตัวอื่นเหมือนว่าท้องอิ่ม

ตัวนี้เห็นชัดท้องขาว กำลังกินไข่พ่นข้างอ่าง

ปลาที่รอดชีวิตจะว่ายน้ำเร็ว ว่องไว ถ่ายรูปแทบไม่ทัน

เห็นชัดว่าเขายังกินลูกไรแดงไม่ได้แน่เพราะลูกไรตัวใหญ่กว่าปาก

วันที่ 10 : ผู้รอดชีวิต

วันนี้ผมสังเกตุมีลูกปลาตายไม่ต่ำกว่า 20 ตัว ซึ่งบางตัวก็เริ่มไม่มีแรงว่ายน้ำ เนื่องจากผมสังเกตุว่าปลาไม่ได้กินอะไร น่าจะหิว แต่ยังไม่กินไข่ที่พ่นให้

-แต่จะมีผู้รอดชีวิต โดยจะมีปลาหลายตัวที่ท้องจะมีสีขาวกว่าตัวอื่น และสังเกตุแล้วมันจะว่ายเข้าไปกินไข่ที่พ่นด้วย

-ใช้ไข่ต้มสุกผสมน้ำ แล้วนำไปใส่ขวดพ่นยา เป็นวันที่สี่ และได้หาลูกไรแดงมาเพิ่มให้เล็กน้อยเผื่อจะกินกันได้ แต่สังเกตตัวยังใหญ่กว่าปากลูกปลา จึงไม่น่าจะกินได้ขณะนี้

-เปลี่ยนน้ำตอนเช้าและเย็น โดยถ่ายน้ำ 1ใน2 ดูดน้ำออก พร้อมสิ่งสกปรก จึงให้อาหารก่อนจะเปลี่ยนน้ำ

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 9

ลูกปลาแข็งแรง หาง และครีบแข็งแรง

ลูกปลาเทวดาที่น่ารัก

เริ่มตื่นกลัวเวลาที่มีแสงจะว่ายหลบ เป็นนิสัยส่วนตัวของเทวดา

วันที่ 9 : ลูกปลาเทวดา
-ถุงไข่ (Yolk Sac) ไม่มีแล้วเป็นท้องของลูกปลาแล้ว
-ใช้ไข่ต้มสุกผสมน้ำ แล้วนำไปใส่ขวดพ่นยา เป็นวันที่สาม อ่านมาว่าเขาให้ไข่ไม่เกิน 7 วัน จากนั้นจะให้เป็นลูกไร
-เปลี่ยนน้ำตอนเช้าและเย็น โดยถ่ายน้ำ 1ใน2 ดูดน้ำออก พร้อมสิ่งสกปรก จึงให้อาหารก่อนจะเปลี่ยนน้ำ

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 8

ผู้รอดชีวิตจากช่วงการฟักไข่

ละอองไข่ที่พ่นให้ลูกปลา

วันที่ 8 : ลูกปลา ที่รอดชีวิต จากการวางไข่จนฟักเป็นตัว
-จากที่ดูด้วยตาประมาณว่ามีลูกปลาราว 200 ตัว (ยังไม่รู้จะเลี้ยงให้รอดได้สักกี่ตัว)
-เปลี่ยนน้ำตอนเช้าและเย็น โดยถ่ายน้ำ 1ใน2 ดูดน้ำออก พร้อมสิ่งสกปรก เหมือนเดิม
-ถุงไข่ (Yolk Sac) แทบจะมองไม่เห็นแล้ว
-ใช้ไข่ต้มสุกผสมน้ำ แล้วนำไปใส่ขวดพ่นยา เป็นวันที่สอง

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 7

ตอนเช้า

ตอนเย็น

เจ้าตัวน้อยถุงไข่เริ่มลดขนาด

ทดสอบให้อาหาร โดยใช้ไข่ต้มสุกผสมน้ำ พ่นด้วยขวดยา

วันที่ 7 : ว่ายกันให้ทั่วอ่าง เตรียมหาอาหารกิน
-เปลี่ยนน้ำตอนเช้าและเย็น โดยถ่ายน้ำ 1ใน2 ดูดน้ำออก พร้อมสิ่งสกปรก
-ถุงไข่ (Yolk Sac) หดเล็กลงกว่าเมื่อวาน กำลังจะกินอาหารเอง สังเกตุจากมันเริ่มกินไข่ที่ก้นอ่าง

-ทดสอบนำ ลูกไรแดง (ตอนนี้หายากมากไปหาที่สนามหลวง2 กว่าจะได้) แบบที่ได้อ่านเจอก็ยังไม่กิน

-ทดสอบใช้ไข่ต้มสุกผสมน้ำ แล้วนำไปใส่ขวดพ่นยา เพื่อให้พ่นน้ำไข่ออกเป็นฝ่อยที่สุด แล้วก็ใช้ได้ สังเกตุมันสนใจที่จะกิน
-ลูกปลาว่ายกันให้ทั่วอ่าง และว่ายขึ้นผิวหน้า

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 6

ตอนเช้า

กลุ่มลูกปลามากันสามใบเถา

ดูเจ้าตัวน้อย เห็นมีครีบข้าง หางได้อย่างชัดเจน

วันที่ 6 : เริ่มครีบกล้า หางแข็ง ออกว่ายสู่ผิวหน้า

-เปลี่ยนน้ำตอนเช้าและเย็น โดยถ่ายน้ำ 1ใน4 ดูดน้ำออก พร้อมสิ่งสกปรก เหมือนเดิม

-ลูกปลาแตกกลุ่ม แต่ยังจับกลุ่มกัน กลุ่มละ 10 ตัวบ้าง 3 ตัวบ้าง ขนหางเล็กๆ กระดิกไปมา เริ่มเห็นครีบข้างได้ชัดเจน

-ถุงไข่ (Yolk Sac) เริ่มหดเล็กลง ใกล้ที่จะกินอาหารเองได้แล้ว

-ลูกปลาที่เคยเกาะอยู่ เริ่มลงมาที่พื้นดูแข็งแรง

-เริ่มว่ายขึ้นผิวหน้า และสำรวจอ่าง

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 5

ตอนเช้า

ตอนเย็น

หน้าตาของลูกปลาวันที่ 5

วันที่ 5 : ลูกปลาเคลื่อนที่ เกาะกลุ่ม เริ่มว่าย

-เปลี่ยนน้ำตอนเช้าและเย็น โดยถ่ายน้ำ 1ใน4 ดูดน้ำออก พร้อมสิ่งสกปรก เหมือนเดิม

-กลุ่มไข่เกิดเป็นวุ้นขาวขุ้นขึ้นมา
-ลูกปลาเริ่มจับกลุ่มกันมากขึ้น ขนหากเล็กๆ กระดิกไปมา เต็มไปหมด บางส่วนเริ่มเคลื่อนที่หลบจากบริเวณที่เคยเกาะ แต่ยังเกาะกันเป็นกลุ่ม

-ลูกปลาที่ตกที่พื้นบางส่วนก็ยังแข็งแรง สังเกตุการกระดิกหางอยู่
-บางส่วนเริ่มว่ายขึ้นผิวหน้า

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 4

ตอนเช้า

ตอนเย็น

วันที่ 4 : ลูกปลาเริ่มเกาะกลุ่ม

-เปลี่ยนน้ำตอนเช้าและเย็น โดยถ่ายน้ำ 1ใน4 ดูดน้ำออก พร้อมสิ่งสกปรก เหมือนเดิม

-ลูกปลาเริ่มจับกลุ่มกัน ขนหางเล็กๆ กระดิกไปมา เต็มไปหมด

-ลูกปลาที่ไม่แข็งแรงจะตาย สังเกตุไม่กระดิกหางแล้ว

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 3

วันที่ 3 : ไข่ปลาเริ่มฟักตัว
-เปลี่ยนน้ำตอนเช้าและเย็น โดยถ่ายน้ำ 1ใน4 ดูดน้ำออก พร้อมสิ่งสกปรก เหมือนเดิม
-ไข่เริ่มออกเป็นตัว โดยจะมีหาง ลักษณะเหมือนขนเล็กๆ กระดิกไปมา

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 2

วันที่ 2: หลังแยกลูกปลา

-เปลี่ยนน้ำตอนเช้าและเย็น โดยถ่ายน้ำ 1ใน4 ด้วยการดูดน้ำออกโดยใช้สายยางเล็กๆ กาลักน้ำออก พร้อมสิ่งสกปรก หากมีไข่ตกไม่ต้องดูดออกมีโอกาสจะเป็นตัว
-ไข่ฝ่อ จะเป็นสีขาว เริ่มเห็นประมาณ 20-30 ฟอง
-เริ่มมีไข่บางฟองกระเทาะ

ปลาเทวดาวางไข่ การเพาะปลาเทวดา : วันที่ 1

วันที่ 1 : ปลาวางไข่

วันที่ 12/06/2009 17:30 ผมกลับมาถึงบ้าน ก็ให้อาหารปลาเหมือนเช่นเคย โดยใช้หนอนแดงแช่แข็ง ในตู้มีปลาเทวดาอยู่ 5 ตัว ผมสังเกตุเห็นว่าที่โอ่งประดับตู้ มีไข่ปลาเกาะติดอยู่ ผมจึงรีบย้ายออกมาเพราะมีประสบการณ์ในครั้งก่อนที่พ่อแม่ปลากินไข่จนหมด เลยคิดว่าการแยกน่าจะดีกว่า

สรุปสิ่งที่ผมสังเกตุ และได้ทดลองทำตามที่เคยได้ยินมา มีดังนี้

-จากพ่อแม่ปลาที่จับคู่ ซึ่งจะจับคู่กันเอง ส่วนการแยกแยะว่าตัวใดเป็นตัวเมีย ตัวผู้ สังเกตุยากมาก จะเห็นก็แต่ตอนที่เขาใกล้ หรือวางไข่แล้วตัวเมียเหมือนจะมีไข่ติดอยู่ที่ใต้ท้อง (ปลาตัวมุมขวามือบน) ส่วนตัวผู้มุมซ้ายบน

-อาการเมื่อใกล้จะวางไข่ สังเกตุจากการไล่ปลาตัวอื่นออกไปจากบริเวณ ซึ่งก็สังเกตุยากเพราะบางครั้งเขาก็ไล่กันอยู่บ่อยจึงดูไม่ค่อยออก และพ่อแม่ปลาจะเริ่มทำความสะอาดในบริเวณที่จะวางไข่

-ปลาไข่ประมาณ 200 ฟอง ไข่บนโอ่งประดับตู้
-ไข่ปลาเป็นสีออกส้ม-อมหลืองเม็ดประมาณไข่กุ้ง(ที่เห็นใส่ในอาหารญี่ปุ่น)
-เเยกไข่ออกมาเลี้ยงในอ่างพลาสติกเสันผ่าศูนย์กลางประมาณ 15 เซนติเมตร
-ใส่น้ำสูงประมาณ 10 เซนติเมตร
-ใชัเครื่องเติมอากาศ (Air Pump) เปิดเบาเบาตลอดเวลา 24 ชม.

การคำนวณขนาดความจุตู้ปลา

การคำนวณขนาดความจุตู้ปลา

การคำนวณนี้เพื่อประโยชน์ในการเติมน้ำยาที่มักจะเขียนมาที่ข้างขวดว่าจะต้องใช้ จำนวนเท่าใดต่อน้ำ 1 ลิตร หรือ ต่อแกลลอน การคำนวณนี้จะใช้ค่าประมาณ โดยคิดจาก

วัดความยาวเป็นหน่วย นิ้ว เพื่อให้ได้ ปริมาตรเป็น ลิตร
กว้าง x ยาว x สูง x 0.01639 = ลิตร

วัดความยาวเป็นหน่วย นิ้ว เพื่อให้ได้ ปริมาตรเป็น แกลลอน
กว้าง x ยาว x สูง x 0.00433 = แกลลอน

หมายเหตุ : ความสูง จะคิดจากพื้นทรายถึงผิวน้ำ เพื่อให้ได้เฉพาะ ค่าปริมาตรน้ำเท่านั้น

เช่น
8 x 13 x 9 x 0.01639 = 15.34 ลิตร
8 x 13 x 9 x 0.00433 = 4.05 แกลลอน

ปลาปอมปาดัวร์

ปลาปอมปาดัวร์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Symphysodon aequifasciatus
ชื่อเล่น ทางฝั่งยุโรปมักเรียกปลาชนิดนี้ว่า "ดิสคัส" , Discus
ชื่อเล่น ทางบ้านเรานิยมเรียก "ปอมปาดัวร์" (Pompadour)
ขนาดโตเติบที่ (Size) : 18 ซม. / ขนาดตู้ (Tank) : 200 ลิตร / ค่ากรดด่าง (pH) : 6.5 / อุณหภูมิที่เหมาะสม (Temp) : 28°C

Origin: Amazon River Basin

ปอมปาดัวร์ หรือ "ปงปาดูร์" ซึ่งเป็นชื่อของสตรีชั้นสูงในราชสำนักฝรั่งเศสสมัยก่อนที่กล่าวกันว่าเลอโฉมยิ่ง
ปลาปอมปาดัวร์เป็นปลาหมอสีอีกชนิดที่แทบจะหลุดพ้นจากคำว่าปลาหมอสีไปแยกตัวเป็นเอกเทศอย่างปลาเทวดา เนื่องจากมันแทบไม่มีความใกล้เคียงกับปลาหมอสีชนิดอื่นใดเลย จุดเด่นสำคัญของปลาปอมปาดัวร์คือรูปร่างที่กลมแบนเป็นจาน (จึงได้ชื่อว่า "ดิสคัส") และมีสีสันลวดลายฉูดฉาดจนหลายๆ คนหลงคิดว่ามันเป็นปลาทะเลธรรมชาติของปอมปาดัวร์กับปลาเทวดาค่อนข้างใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะถิ่นอาศัยและอาหาร แต่เมื่อนำมาเลี้ยงในตู้แล้วกลับพบว่าปลาปอมปาดัวร์เลี้ยงยากกว่า ค่อนข้างจุกจิกเรื่องอาหารการกิน แต่ก็สามารถค่อยๆ ฝึกให้กินอาหารสำเร็จรูปได้ โดยจำเป็นต้องใช้อาหารเฉพาะที่ออกแบบมาสำหรับปอมปาดัวร์เท่านั้น

refer : www.aquahobby.com

การเพาะเลี้ยงปลาเทวดา

คัดย่อจาก "(เมื่อปลา) เทวดาตกสวรรค์"
พระนิพนธ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์
(โดย สถาบันวิจัยสัตว์น้ำสวยงามและสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ กรมประมง)

ปลาเทวดา จะเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยและพร้อมที่จะผสมพันธุ์ได้เมื่อมีอายุประมาณ 8-10 เดือน การจับคู่เพื่อการผสมพันธุ์และวางไข่เริ่มขึ้นโดยตัวผู้จะว่ายเคียงคู่กับตัวเมีย ในขณะเดียวกันจะพยายามกัดตัวอื่น ๆ ให้ห่างจากคู่ของตนและสร้างอาณาเขตของตัวเองไม่ให้ตัวอื่นเข้าใกล้ อาจจะเป็นบริเวณมุมตู้มุมใดมุมหนึ่ง โดยตัวเมียจะอยู่ด้านในติดกับมุมตู้ ตัวผู้มักจะว่ายน้ำอยู่ด้านนอก ทั้งตัวผู้และตัวเมียจะทำความสะอาดบริเวณที่วางไข่ โดยการอมน้ำแล้วพ่นไปในบริเวณพื้นตู้ และเก็บสิ่งสกปรกต่าง ๆ เช่น เศษใบไม้ หรือตะกอนผงต่าง ๆ ออกจากบริเวณนั้น ซึ่งเป็นสัญญาณแสดงว่าตัวเมียพร้อมที่จะวางไข่ ทำการแยกปลาทั้งคู่ออกมาจากตู้ที่เลี้ยง ใส่ในตู้เตรียมไว้สำหรับเพาะ ซึ่งโดยมากแล้วนิยมใช้ตู้ขนาดความยาว 1 ฟุตขึ้นไป ใส่น้ำที่ปราศจากคลอรีนและมีการเพิ่มปริมาณออกซิเจนโดยการใช้ปั๊มลม (air pump)ตามธรรมชาติแล้วปลาตัวเมียจะวางไข่ติดกับวัสดุต่าง ๆ ในน้ำ เช่น ก้อนหิน ตอไม้ พรรณไม้น้ำชนิดต่าง ๆ ในน้ำ เช่น ก้อนหิน ตอไม้ พรรณไม้น้ำชนิดต่าง ๆ แต่เมื่อนำมาเลี้ยงในตู้กระจกแล้ว นักเพาะปลามักนิยมใช้กระจกหรือพลาสติกแผ่นเรียบวางเอียงกับพื้นตู้ประมาณ 30-60 องศา แม่ปลาจะวางไข่ติดกับกระจกแล้วตัวผู้จะปล่อยน้ำเชื้อผสมกับไข่ทันที จะผลัดเปลี่ยนกันเช่นนี้จนแม่ปลาวางไข่หมด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ในแต่ละครั้งของการวางไข่ แม่ปลาจะวางไข่ประมาณ 300-2,000 ฟอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของแม่ปลา พ่อแม่ปลาจะเฝ้าไข่และคอยพัดโบกน้ำโดยใช้ครีบอก เพื่อเป็นการเพิ่มออกซิเจนในน้ำ

การอนุบาลลูกปลา
สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วิธี คือ
1. การแยกไข่มาอนุบาล
2. การให้พ่อแม่อนุบาล

1. การแยกไข่มาอนุบาลกระทำโดยหลังจากแม่ปลาวางไข่และไข่ได้รับการผสมแล้ว นำแผ่นกระจกที่มีไข่ติดอยู่มาใส่ในตู้อนุบาลที่เตรียมไว้ และมีการเพิ่มอากาศโดยใช้ปั๊มลม (air pump) เบา ๆ ตลอดเวลา ความลึกของน้ำไม่เกิน 10 เซนติเมตร ไข่จะฟักออกเป็นตัวภายใน 36 ชั่วโมง ลักษณะของลูกปลาในระยะนี้จะเห็นเป็นเส้นด้ายเคลื่อนไหวไปมาแต่ยังไม่เคลื่อนที่จะเกาะติดอยู่บริเวณแผ่นกระจกนั่นเอง ลูกปลาจะมีถุงไข่ (yolk sac) ติดอยู่ในบริเวณด้านท้อง ในระยะนี้ลูกปลาจะยังไม่ต้องกินอาหารถุงไข่นี้จะยุบภายใน 2-3 วัน จากนั้นลูกปลาจะเริ่มเคลื่อนโดยมักจะลอยตัวขึ้นมาในบริเวณผิวน้ำและรวมกลุ่มกันอยู่อย่างหนาแน่น เมื่อลูกปลามีอายุได้ 5 วันขึ้นไป จะให้อาหารโดยใช้ไข่แดงต้มสุกบดละเอียดผสมกับน้ำเล็กน้อยหยดไปในบริเวณกลุ่มของลูกปลา ควรระวังในการให้อาหารโดยอย่าให้มากจนลูกปลากินไม่หมดจะทำให้น้ำเสียง่าย และเป็นบ่อเกิดของโรค ไม่ควรให้ไข่แดงเกิน 7 วัน เพราะจะทำให้ปลาท้องอืดตายได้ นักเพาะปลาเทวดาบางคนจึงข้ามขั้นตอนการให้ไข่แดงไปเป็นการให้ลูกของไรแดง โดยการใช้กระชอนตาถี่ที่สามารถช้อนไรแดงตัวใหญ่มากออกไปและเหลือไรแดงตัวเล็กที่สามารถเป็นอาหารของลูกปลาได้ แล้วจึงนำมาให้ลูกปลาเป็นอาหาร ในระยะนี้ควรระวังเรื่องความสะอาดของน้ำ ควรหมั่นเปลี่ยนน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือในช่วงเช้าและเย็นและควรให้อาหารอย่างสม่ำเสมอวันละ 4-5 ครั้ง จะทำให้ปลาเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เมื่อลูกปลาอายุได้ 10 วันขึ้นไปจะสามารถว่ายน้ำได้อย่างอิสระและคล่องตัวแต่ยังจะรวมฝูงกันอยู่ในระยะนี้ลูกปลาจะมีรูปร่างกลมคล้ายรูปไข่ กระโดงหลัง ครีบอก และครีบก้นยังไม่ยาวออกมา ลูกปลานี้จะเจริญเติบโตเหมือนพ่อแม่เมื่ออายุประมาณ 45 วัน การอนุบาลด้วยวิธีนี้มีผลดีคือ พ่อแม่ปลาไม่ต้องดูแลลูกปลาทำให้พ่อแม่ปลาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังจากวางไข่ และสามารถวางไข่ในครั้งต่อไปได้ในเวลา 7-10 วัน ทำให้สามารถเพาะปลาได้เป็นจำนวนสูง และยังป้องกันพ่อแม่ปลาบางตัวที่มีอุปนิสัยในการกินไข่ ข้อเสียของวิธีนี้คือถ้าน้ำไม่สะอาดเพียงพอในช่วงอนุบาลอาจจะเนื่องมาจากสาเหตุหลายประการ เช่น อาหารเน่าเสีย และของเสียที่เกิดจากตัวปลา เป็นต้น
2. การให้พ่อแม่อนุบาลปลาเทวดาจัดเป็นปลาประเภทที่ดูแลและเลี้ยงลูกทั้งตัวผู้และตัวเมียการอนุบาลอีกวิธีหนึ่งก็คือการปล่อยให้พ่อแม่ปลาอนุบาลเอง พ่อแม่ปลาจะอมลูกปลาที่ตกอยู่ในบริเวณพื้นพ่นขึ้นไว้ในบริเวณแผ่นกระจก เพื่อให้ลูกปลาได้รับออกซิเจนและน้ำสะอาด นอกจากนี้พ่อแม่ปลายังพยายามย้ายลูกปลาทั้งหมด เพื่อหลบเลี่ยงการถูกรบกวน ดังนั้นตู้อนุบาลปลานี้ไม่ควรจะมีกรวด ทราย รองพื้นตู้เพราะจะทำให้พ่อแม่ปลาเก็บลูกปลาจากพื้นได้ยาก อาหารในระยะแรกของลูกปลาเหล่านี้ก็คือเมือกของพ่อแม่ปลา
การอนุบาลด้วยวิธีนี้มีผลดีคือ จะทำให้ลูกปลาแข็งแรง เพราะมีพ่อแม่ปลาคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่การกัดเปลือกไข่ให้ฉีกขาดเพื่อให้ลูกปลาฟักออก การเคลื่อนย้ายลูกปลาเพื่อให้ได้รับออกซิเจนหรือน้ำสะอาด

ปลาเทวดา

ปลาเทวดา
ชื่อวิทยาศาสตร์ Pterophylum scalare
ชื่อเล่น AngelFish
ขนาดโตเติมที่ (Size) : 15 ซม. / ขนาดตู้ (Tank) : 100 ลิตร / ค่ากรดด่าง (pH) : 7.0 / อุณหภูมิเหมาะสม (Temp) : 26°C
Origin: Amazon Basin

ปลาเทวดา ก็จัดเป็นปลาในวงศ์ซิคลิดี (Family Cichlidae) หรือวงศ์ปลาหมอสีด้วยอีกชนิดหนึ่งที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากที่สุด นั่นคือ มีรูปทรงแบนมากและมีครีบบนและล่างเหยียดยาวสง่างามรับกับการว่ายน้ำที่เชื่องช้าเอื่อยอ่อย ปลาเทวดา หรือ Angelfish มีหลายสายพันธุ์ ทว่าแต่ละสายพันธุ์ล้วนมีรูปร่างเหมือนกันทั้งสิ้น ในธรรมชาติพวกมันจะอาศัยอยู่เป็นฝูงตามบริเวณน้ำนิ่งหรือไหลเอื่อยที่มีซากกิ่งก้านขอนไม้ระเกะระกะอันเป็นเครื่องป้องกันภยันตรายจากศัตรูได้เป็นอย่างดี ขนาดของมันไม่ใหญ่นัก โดยมากไม่เกิน 15 เซนติเมตร แต่ความสูงโดยวัดจากปลายครีบบนถึงล่างจะยาวน่าประทับใจ บางตัวที่โตเต็มที่สามารถวัดได้ถึง 35 เซนติเมตร เลยทีเดียว เทวดา เป็นปลาปากเล็ก อาหารของมันคือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กๆ ที่ลอยมาตามน้ำหรือพวกสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังต่างๆ เช่น หนอน ไส้เดือน หรือแมลงน้ำ ในที่เลี้ยงสามารถกินอาหารได้หลากหลาย โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป



refer : www.aquahobby.com

วิธีดูเพศปลาเทวดา

ผมเฝ้าสังเกตุปลาเทวดาที่อยู่นาน สังเกตุยากเมื่ออายุน้อยๆ แต่พออยู่ในช่วงอายุเจริญพันธุ์ ประมาณ 8-10 เดือน ก็พอจะเห็นความแตกต่างระหว่าง ปลาเพศผู้และเพศเมียได้ คือสังเกตุได้ว่า เพศผู้จะมีหน้าผากหนากว่าและเข้มกว่า เพศเมีย
การแยกเพศปลาเทวดา (ซ้ายเพศเมีย ขวาเพศผู้)

เพศผู้ หน้าผากด้านหน้ามีความหนาและเข้มกว่าเพศเมีย

เพศเมีย หน้าผากสีอ่อน พื้นๆ

เปรียบเทียบระหว่าง เพศเมียด้านใน เพศผู้อยู่ด้านนอก